วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทความ: จากบุญสนองถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่

ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน

(หมายเหตุ: ไม่ทราบที่มาแน่ชัดว่าต้นฉบับแรกของบทความนี้ ดร.บุญสนอง เมื่อใด โดยบทความที่นำมาเผยแพร่นี้คัดจากหนังสือ เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์ สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์พิมพ์ครั้งที่ 2 ครบรอบ 25 ปีของการเสียชีวิต 28 กุมภาพันธ์ 2544 จัดทำโดย สถาบันพัฒนาการเมือง)



ผมเป็นคนเมืองโดยกำเนิด เกิดที่เชียงรายแล้วมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ ชั้นมัธยมศึกษาบังเอิญมีโอกาสไปร่ำเรียนวิชาในกรุงเทพฯ จบรัฐศาสตร์บัณฑิตจากจุฬาฯ แล้วได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอกจนได้ปริญญาโทและเอกซึ่งเป็นการศึกษาขั้นสูงสุด ที่เขียนอย่างนี้มิใช่จะโอ้อวดแต่เพื่อให้ทราบความจริงเท่านั้น เพราะปริญญาเอกที่โกงบ้านโกงเมืองก็มี ด๊อกเตอร์ที่ประพฤติตนต่ำช้าก็มาก และชาวนาที่จบ ป.๔ ต่ำดำเนินชีวิตอย่างบริสุทธิ์เป็นไปเพื่อส่วนรวมมีค่ามากกว่าพวกที่มีการศึกษาสูงยิ่งนักก็มีอยู่เหลือหลาย

ผมอยู่เมืองนอก ๙ ปี เรียนเสร็จก็ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยฝรั่งอยู่สองปีแล้วจึงกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและสอนปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย

ขณะที่ก่อตั้งกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญเมื่อก่อน ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ผมเป็นคนหนึ่งที่ร่วมร่างแถลงการณ์รวมลงนามเป็นหนึ่งในร้อยของผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ นับว่าได้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายรวมกับคนอื่น ๆ ที่ต่อสู้จนเผด็จการทหารต้องหนีออกไปนอกประเทศ

หลังจากนั้นกลุ่มดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ปช.ป.ช.) ผมได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางคนหนึ่งของกลุ่ม พี่น้องทั้งหลายคงได้ยินข่าวการต่อสู้เรื่อง นาทราย ที่เปิดโปงความร่ำรวยของฝ่ายปราบปรามประชาชนที่เผาบ้านชาวนาถึง ๑๐๖ หลังคาเรือน และฆ่าเด็กและผู้หญิงหลายคนอันนั้นเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่ง เราประท้วงร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่าง ฯ และเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของวีรชน ๑๔ ตุลา และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกแต่ภาวะหลายอย่างยังคงคั่งค้างอยู่

เมื่อรัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์ ประกาศให้ใช้รัฐธรรมนูญเพื่อเป็นหลักวิถีการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย บรรดานักต่อสู้ทั้งหลายที่เคยร่วมต่อสู้เสี่ยงคุกตารางมาเมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ รวมทั้งนักต่อสู้ในอดีตได้หารือกัน ที่จะให้มีพรรคการเมืองที่เป็นหลักนำทางสังคมนิยมอย่างแท้จริงขึ้นมา ด้วยความมุ่งหมายที่จะสร้างให้เป็นพรรคของประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่าทั้งกรรมกร ชาวนา ปัญญาชน พ่อค้า ทหารตำรวจ และข้าราชการ ผู้รักชาติและรักความเป็นธรรม เราจึงร่วมกันจัดตั้งพรรคนี้ขึ้นเพื่อผลักดันแนวทางสังคมนิยมให้บรรลุผล เพราะประวัติศาสตร์ประเทศต่าง ๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา หรือระบบทุนนิยมนั้นนับวันมีแต่จะพังทลายลงไป เพราะระบบที่แบ่งคนออกเป็นสองชั้นทำให้คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนลง

 สังคมนิยมจึงต้องการขจัดช่องว่างนี้ โดยคนรวยจะต้องยินยอมทำความเข้าใจและยินยอมเสียสละเพื่อยกระดับคนจนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีความหวังในชีวิตมากขึ้น ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นหัวเรี่ยวแรงเริ่มก่อตั้งพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย และได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคฯ ให้ทำหน้าที่เลขาธิการพรรค

พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยกับรัฐบาลปัจจุบันมีคนกล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันเป็นนายทุนนักต่อต้านประชาธิปไตยผสมกับเชื้อสายเผด็จการ สิ่งใดที่ไม่กระทบกระเทือนผลประโยชน์ของเขา เขาจะยินยอมอะลุ่มอล่วยเพื่อสร้างความพอใจให้กับประชาชน สิ่งใดที่กระเทือนผลประโยชน์ของเขา เขาจะไม่ยอมเป็นอันขาด

คำกล่าวที่เป็นความจริงอยู่มาก เราจะเห็นได้ว่าตัวแทนที่ประกอบขึ้นเป็นรัฐบาลนั้น ประกอบด้วยนายทุน นายธนาคารจากพรรคกิจสังคม นายทุนนายหน้าผู้มีผลประโยชน์ร่วมกับญี่ปุ่นและอเมริกาจากพรรคชาติไทย นายทุนผูกขาดจากภาคอีสานจากพรรคประชาชน และเหล่าบริวารถนอมประภาสแห่งพรรคสังคมนิยม และยังมีสมุนของเขาจากพรรคเล็กพรรคน้อยคือพรรคสันติชน พรรคไท พรรคสยามใหม่ และอื่นๆ คนเหล่านี้เองที่ประกอบขึ้นที่เป็นรัฐบาล ดังนั้นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้จึงไม่เป็นไปเพื่อแก้ปัญหาพื้นฐาน คือปัญหาปากท้องของประชาชน หากเป็นนโยบายฉาบฉวย และเป็นความฝัน เช่นว่าจะให้ประชาชนทุกคนมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละหนึ่งพันบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ปฏิบัติไม่ได้ หรือถ้าเป็นไปได้จริงขณะที่คนยากจนมีรายได้ถึงเดือนละหนึ่งเดือนละหนึ่งพันบาท ก็ปรากฏว่า พวกเศรษฐีนายทุนทั้งหลายเขามีรายได้เพิ่มขึ้นอีกนับแสนนับล้านบาท แล้วเขาก็ขายเสื้อผ้าเครื่องใช้ในราคาที่สูงขึ้นไปอีก รัฐบาลว่าจะให้คนมีรายได้น้อยขึ้นรถโดยสารฟรี เป็นการให้บริการเฉพาะคนเมืองหลวงและคนที่อยู่ในตัวเมืองเท่านั้น ชาวนาไม่ได้รับผลอะไรเลย แม้โครงการผันเงินสู่ชนบทก็ทำกันอย่างฉุกละหุก ไม่มีการวางแผนที่แน่นอน ยัดเยียดให้ชาวบ้านในสิ่งชาวบ้านไม่ต้องการก็มีมาก ดังเช่นที่ตำบลปูคา อำเภอสันกำแพง ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง และตำบลปาบง อำเภอสารภี เป็นตัวอย่าง

เราจะเห็นได้ว่า เมื่อระยะตั้งรัฐบาล ตอนหลังเลือกตั้งทั่วไปนั้น พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลพากันแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อจะคุมทหาร รัฐบาลชุดนี้ก็ตั้งขึ้นมาได้ด้วยการแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างทั่วถึง รัฐมนตรีหลายคนเป็นคนไม่มีสติปัญญาความสามารถอะไร หากได้รับแต่งตั้งเพราะเหตุที่คนเหล่านั้นเป็นนายทุนเสียง ส.ส. เพื่อหนุนรัฐบาลได้เท่านั้นเอง คนเหล่านั้นใช้เงินไปนับสิบล้านบาทในการเลือกตั้ง ก็อย่าได้ประหลาดใจเลย เมื่อเร็ว ๆ นี้เราจึงได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่า ส.ส. พรรครัฐบาลขอโควตาส่งน้ำตาลออกนอกประเทศมูลค่าถึงหกพันล้านบาท เมื่อพ่อค้ากับรัฐมนตรีเป็นคนเดียวกันหรือมิฉะนั้นก็เป็นคนกลุ่มเดียวกัน จะหวังให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนข้างมากได้อย่างไร เขาจะกล้าดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินได้อย่างไร ในเมื่อทั้ง ส.ส. และ รมต. หลายคนเป็นเจ้าของที่ดินใหญ่

เขาจะกล้าโอนกิจการธนาคารเข้าเป็นของรัฐได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของธนาคารพาณิชย์ใหญ่หลายแห่ง ซึ่งทำกำไรให้แก่เขา และพวกพ้องเขามากมายในแต่ละปี

เขาเป็นพ่อค้าข้าวส่งออกนอกประเทศที่มีกำไรมหาศาลต่อปี เขาจะกล้าเปลี่ยนแปลงการค้าข้าวกับต่างประเทศได้อย่างไร เรื่องการค้าข้าวนี้ แท้จริงรัฐบาลควรดำเนินการเองเพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋ารัฐและกำหนดได้ด้วยว่าควรส่งออกเท่าไร ใช้ในประเทศเท่าไรเมื่อขายในตลาดได้ราคาเท่าไร ชาวนาผู้ผลิตก็ควรได้เท่านั้น ไม่ควรให้มีพ่อค้าคนกลางคอยแย่งเอากำไรไปจากชาวนา เขาจะยอมใช้ระบบเก็บภาษีแบบก้าวหน้า (คนมีรายได้มากเสียภาษีมาก คนมีรายได้น้อยเสียภาษีน้อย) ได้อย่างไร ในเมื่อมันไปลดรายได้ของเขา และพวกพ้องบริวารของเขา เขาจะเต็มใจต่อต้านอำนาจครอบงำทางเศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศนายทุนได้อย่างไร ในเมื่อเขาหากินได้รับประโยชน์มหาศาลทั้งทางตรง ทางอ้อม ทั้งลับ และเปิดเผย จากประเทศทุนนิยมเหล่านั้น เมื่อการเลือกตั้งในวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๘ เสร็จสิ้นลงแล้ว ทั้งฝ่ายนายทุนประชาธิปไตย-เกษตร-สังคม และนายทุนกลุ่มสหพรรคต่างก็เรียกร้องให้พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยที่ผมสังกัดอยู่เข้าร่วมตั้งรัฐบาลของแต่ละฝ่ายแล้ว ล้วนประกอบด้วยขุนนาง ขุนศึก ศักดินา และนายทุนใหญ่ กับทั้งได้เห็นนโยบายถอยหลังเข้าคลองมุ่งแต่รักษาผลประโยชน์ของชนชั้นนายทุนของทั้งสองฝ่ายแล้ว พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยจึงไม่อาจเข้าร่วมด้วย เมื่อรัฐบาลนี้เป็นตัวแทนของคนมั่งคนมี ไม่ใช่ตัวแทนของคนยากคนจน เมื่อรัฐบาลนี้รักษาผลประโยชน์ของพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ชนชั้นผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นคนข้างมากของประเทศ เราจึงยืนหยัดเป็นฝ่ายค้านที่ยึดมั่นในแนวทางสังคมนิยมอย่างเหนียวแน่น

พี่น้องทั้งหลายคงจำได้ว่าในพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยนั้นปรากฏว่ามี ส.ส. แกะดำอยู่สามนายที่ไม่เข้าใจการเมืองระบบพรรค และเห็นแก่ลาภยศส่วนตัว เขาก้าวเข้ามาสู่พรรคในคราบของนักสังคมนิยม แต่ธาตุแท้ของเขาคือคนทรยศต่อประชาชน พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยยอมรับโดยปราศจากข้อแก้ตัวว่า พรรคเลือกคนผิดเข้ามา ขณะนั้นชื่อเสียงของพรรคตกลงไปบ้าง แต่ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้พิจารณาในมุมกลับว่า พรรคไหนเคยขับ ส.ส. ออกจากพรรคบ้าง พี่น้องคงจำได้ว่า เราขับไล่เขาออกไปทันทีโดยไม่ลังเลใจเลย กำลังน้อยที่ยืนหยัดกับแนวทางสังคมนิยมดีกว่ากำลังมากที่ทรยศต่อประชาชน คนชนิดนี้มีแต่จะถูกไสหัวให้ตกไปจากเวทีการเมืองแต่ฝ่ายเดียว

เพราะเหตุที่นโยบายพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยไปกระทบกระเทือนผลประโยชน์ของเหล่านายทุนขุนศึก ศักดินา เพราะเรายืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ของกรรมกร ชาวไร่ ชาวนา ดังนั้นกระแสทำลายพรรคสังคมนิยมจึงขึ้นสู่ระดับสูง แม้คนชั้นรองนายรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติไทยยังพูดทางสถานีโทรทัศน์เมื่อต้นเดือนเมษายนนี้ว่า สังคมนิยมเป็นคอมมิวนิสต์ที่ต้องกีดกันไม่ให้มีพลังอีกต่อไป ถ้าตีความแล้วเท่ากับว่ารัฐบาลไทยชุดนี้เป็นคอมมิวนิสต์ด้วย เพราะเขารับรองให้มีคอมมิวนิสต์อยู่สภาถึง 10% และพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยก็จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขอแจ้งให้ทราบ ณ ที่นี้ด้วยว่า เมื่อระยะตั้งรัฐบาล พลตรีประมาณ อดิเรกสาร และพรรคของเขานั้นเอง ที่วิ่งเกี้ยวเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีให้พรรคเรา ในที่สุดประชาชนก็เห็นธาตุแท้ของทุนใหญ่คนนี้ว่าเป็นผู้ที่จักรวรรดิ์นิยมอเมริกาเอ็นดูยิ่งนัก ตั้งหน้าแต่จะใช้กองกำลังท่าเดียว หาสำนึกไม่ว่า ชาวเขมร เวียตนามและลาวซึ่งมีพลังเพียงน้อยนิดแต่แสนยานุภาพอันไพศาลของอเมริกายังยอมแพ้อย่างสิ้นท่า

นี่สหรัฐอเมริกายังไม่หลาบจำส่งเรือจารกรรมเข้าไปในน่านน้ำเขมรถูกจับแล้วยังถือสิทธิ์ส่งหน่วยนาวิกโยธินบุกรุกเข้ามาอู่ตะเภาเพื่อชวนไทยให้เป็นศัตรูต่อเขมรด้วย นโยบายที่สหรัฐอเมริกาถนัดนัก หากนักศึกษา ประชาชน ไม่สำแดงพลังประท้วงการละเมิดอธิปไตยของไทย ไหนเลยอเมริกาจะยอมขอขมา แม้แต่รัฐมนตรีกลาโหม หัวหน้าพรรคชาติไทยก็ยังออกปากแก้ตัวแทนเขา

พี่น้องชาวเชียงใหม่ที่รัก อ่านมาถึงตรงนี้ พี่น้องทั้งหลายอาจรู้สึกว่าผมก้าวร้าวรุนแรง เปล่าเลย พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยและพลังฝ่ายประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา กรรมกร ชาวไร่ ชาวนา ไม่เคยเริ่มความรุนแรงก่อน ชนชั้นปกครองต่างหากที่วางแผนทำลายพลังประชาชน เขามี กอ.รมน. เขาตั้งหน่วยนวพล กระทิงแดง เพื่อที่จะยุยงให้คนไทยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศเผยว่า กอ.รมน. สร้างสถานการณ์ยุคนสกลนครให้ขับไล่ชาวญวน ที่หนองบัวบานจังหวัดอุดรธานี ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข ปรากฏว่าโฆษกสถานีวิทยุ วปถ.๗ ของ กอ.รมน. ป้ายสีแดงให้ อ.ส. เข้าไปสร้างความแตกแยกชาวนามาเรียกร้องที่ทำกินที่กรุงเทพฯ เขาก็ส่งหน่วยกระทิงแดงเข้ามาปาระเบิด แม้แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม ก็ยังลุกหนีออกจากที่ประชุมเมื่อชาวนาเข้าร้องขอความเป็นธรรม ชาวนาเชียงใหม่ถูกลอบยิง ชาวนาอุดรถูกสังหาร ผู้นำนักศึกษากรรมกร ที่ยืนอยู่กับประชาชนถูกกลั่นแกล้ง ถูกฆ่าตาย

สังคมมือยาวสาวได้สาวเอามือในที่นี้หมายความถึง อำนาจเงิน คือ พลังทางเศรษฐกิจและยังหมายถึงพลังทางอำนาจ ได้แก่การฉวยเอาหรือแอบอิงอำนาจรัฐมาใช้ประโยชน์ รวมตลอดถึงพลังการศึกษาด้วย เคยเห็นคนรวยคนไหนบ้างที่ยากจนลง เคยเห็นชาวนาคนไหนบ้างที่ร่ำรวยขึ้น ในระดับชาติเศรษฐกิจตกอยู่ในมือของพ่อค้าไม่กี่ตระกูล ในระดับท้องถิ่นพ่อค้า-และเจ้าที่ดินเป็นผู้กำหนดให้ชาวไร่ ชาวนามีชะตากรรมอย่างไรก็ได้ ตามที่เขาต้องการ

พี่น้องหมู่เฮาที่รักเคยได้ยินคำพังเพยนี้หรือไม่ แข่งเรือแข่งพายพอแข่งได้ แต่อย่าแข่งวาสนา ถ้าถือว่าการแข่งวาสนาเป็นเกมส์กีฬาก็เป็นกีฬาที่ผิดกติกา เพราะกีฬาจะต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือเท่ากันเพราะคนรวยมีเงินมากมายหมาศาลมาแข่งความมั่งมีกับคนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวนึ่งจะแช่ จะมีความยุติธรรมตรงไหนในการแข่งขัน คำพังเพยนี้เป็นคำพังเพยที่คนมั่งมีบัญญัติขึ้นเพื่อให้คนยากจน ยอมจำนนต่อชะตากรรมของตนเองว่า อย่าได้กระเสือกกระสนดิ้นรนเลยเปล่าประโยชน์โดยแท้คนยากคนจนไม่มีทางได้ลืมตาอ้าปากหรอก ชนชั้นนายทุนยังดูถูกชั้นผู้ใช้แรงงานอีกว่า รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสาหรือ ถ้าไม่รักดีก็จงไปเป็นคนทำไร่ไถนาเถอะ เท่ากับว่าผู้ใช้แรงงานทั้งหลายซึ่งต้องออกแรงทำงานหนักล้วนเป็นคนรักชั่วทั้งนั้น

แท้จริงแล้ว ไม่มีเทวดาอินทร์พรหมไหน หรือบาปบุญคุณโทษอะไร ที่มากำหนดความยากจน ตัวการที่แท้จริงคือระบบทุนนิยม เราปลูกข้าวเหนื่อยจนตัวแทบขาด พอถึงเวลาขาย แทนที่เราจะเป็นผู้กำหนดราคาได้ พ่อค้ากลับกำหนดให้เราเสร็จ เราขายใบยาสูบเขาก็กดราคาโกงตราชั่งโกงเกรด เขาจะบอกว่าใบยาไม่ดีมีคุณภาพต่ำ ถ้าปีไหนเรามีขายน้อยอาจได้ราคาดีหน่อย แต่พอเรามีใบยาสูบมากราคากลับต่ำลงไปทันที นี่แสดงว่าพ่อค้าทั้งหลายที่รับซื้อใบยาสูบของเราเขารวมหัวกันกำหนดราคายังไงก็ได้ สุดแท้แต่เขาต้องการกำไร เมื่อเราไปซื้อหมูซื้อเนื้อ เรากำหนดราคาได้หรือ ไม่ ลองคิดดู เมื่อเราต้องการซื้อปุ๋ยเขากลับเอาทรายปนมาให้เราอย่างหน้าด้าน ๆ จะต่อรองราคาก็ไม่ได้ เราจึงถูกเอาเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องไม่ว่าจะเป็นผู้ขายหรือผู้ซื้อ

ชาวไร่ ชาวนา จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอื่น ๆ หลายจังหวัดนับหมื่นนับแสนคนที่ต้องกลายจากเจ้าของนามาเป็นผู้เช่านา เมื่อได้ผลผลิตออกมาแล้วหักเป็นค่าเช่าและดอกเบี้ย เงินลงทุนบางทีแทบไม่พอเหลือไว้กินระหว่างปี แต่เจ้าของที่ในเชียงใหม่นี้บางรายเก็บค่าเช่าดอกเบี้ยละ ๕ แสนบาท (ตัวเลขของรัฐบาล) แรงงานของเราจึงเป็นแรงงานที่มีคนมาฉวยเอาไป เจ้าที่ดินและพ่อคนกลางที่ขูดรีดจึงเป็นผู้ที่ทำนาบนหลังคน กรรมกรโรงงานต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน ถูกกดขี่ค่าแรงงานอย่างหนัก และขณะเดียวกันก็ถูกใช้แรงเต็มที่ จึงไม่น่าแปลกใจที่กรรมกรรวมตัวกันประท้วงค่าแรงและสวัสดิการกว่า ๔๐๐ ครั้งในรอบปีที่แล้ว ชาวนาเดินขบวนเรียกร้องสิทธิ์ในที่ดินทำกินหลายครั้งหลายหน ปรากฏการณ์เหล่านี้ คือสัญญาเตือนผู้กดขี่ทั้งหลายให้รู้ว่าที่ใดมีการกดขี่ที่นั่นมีการต่อต้าน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น เพราะคนเรานั้นไม่ว่าจะมีหรือจน เขาต่างก็ปรารถนาจะให้ท้องอิ่ม เขาต้องการเสื้อผ้าสำหรับนุ่งห่ม เขาต้องการมีที่อยู่ที่นอน และเขาต้องการยารักษาโรค เมื่อเขาถูกกดขี่ถึงระดับหนึ่ง เขาจำเป็นต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความชอบธรรมที่เขาควรได้รับ หากนายทุนที่เห็นการณ์ไกลจะยอมรับปรากฏการณ์นี้ และเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชั้นผู้ใช้แรงงาน ก็จะได้รับการต้อนรับจากประชาชนโดยทั่วไป
ทุนนิยมจึงเป็นโรคร้ายของสังคม ที่คอยกัดกร่อนประชาชนชาวไทยให้ผอมทุกที

สังคมนิยมจึงเป็นยาขนานเดียวที่จะรักษาโรคร้ายนี้ได้ นั่นหมายความว่าคนมีเงินจะต้องยินยอมทำความเข้าใจและยินดีเสียสละคนเราจึงจะอยู่ร่วมกันได้ ทั้งนี้ เพราะสังคมนิยมยึดมั่นในรากฐานสำคัญ ๓ ประการ
๑.      ความเสมอภาค และการนับถือคุณค่าในตัวมนุษย์
๒.      การแบ่งสันปันส่วนทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม ไม่เอารัดเอาเปรียบกินแรงกัน
๓.      การที่ทุกคนมีหลักประกันในการทำงาน ไม่มีใครถูกขูดรีด มีหลักประกันในการศึกษา การรักษาพยาบาลและด้านอื่นโดยเท่าเทียมกัน

พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยจึงมุ่งเสนอนโยบายที่แก้ไขปัญหาพื้นฐานของประชาชนภายในชาติ เน้นเรื่องปากเรื่องท้องเป็นสำคัญ

นโยบายหลักของพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย
๑.      จัดให้ที่ดินเป็นของผู้ใช้แรงงาน ชาวไร่ชาวนาเท่านั้น
๒.      ส่งเสริมฐานะของชาวชนบทด้วยการจัดระบบรวมกลุ่มในรูปต่าง ๆ ให้แพร่หลายเพื่อมีอำนาจควบคุมซื้อขายผลิตผลอย่างเป็นธรรม และไม่ผ่านคนกลาง
๓.      รัฐบาลเข้าไปมีบทบาทในกิจการค้าผลผลิตที่สำคัญ
๔.     รัฐบาลเข้าดำเนินกิจการสำคัญทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น ธนาคาร น้ำมัน เหมืองแร่ ป่าไม้
๕.     ส่งเสริมให้ท้องถิ่นปกครองตนเอง เลี้ยงตนเอง และป้องกันตนเองได้
๖.      จัดการศึกษาตามแนวทางรับใช้มวลชนให้แก่ประชาชนทั่วถึงและเสมอภาค
๗.     กำจัดอิทธิพลทางเศรษฐกิจของจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นและอเมริกาที่เอารัดเอาเปรียบไทย
๘.     กำจัดอิทธิพลทางทหารและการบ่อนทำลายของจักรวรรดินิยมอเมริกา
๙.      ต่อต้านอำนาจเผด็จการ ฯลฯ และส่งเสริมอำนาจประชาชน
ฯลฯ

ด้วยความเชื่อมั่นในนโยบายเหล่านี้ ว่าจะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาของประชาชนและประเทศชาติได้ ผมจึงขอเสนอตัวเองในนามพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งคนหนึ่ง เพื่อจะได้รับใช้พี่น้องชาวเชียงใหม่และประชาชนทั่วประเทศ และเพื่อเข้าไปเสริมพลังฝ่ายสังคมนิยมให้เข้มแข็ง และมั่นคงขึ้น แม้จะรู้ว่าพลังที่ทำลายสังคมนิยมนั้นเป็นไปอย่างแพร่หลายและกว้างขวาง แต่ผมก็สู้อย่างสุดจิตสุดใจด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในพลังประชาชนว่า ประชาชนผู้ยากไร้และผู้รักความเป็นธรรม คือผู้ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ เมื่อนักต่อสู้คนหนึ่งล้มลง อีกสิบอีกร้อยนักต่อสู้จะเกิดขึ้นเพื่อเป็นพลังรวมกันในการสร้างสังคมที่มีความหวัง มีความสมบูรณ์ และมีสันติอย่างแท้จริง

พี่น้องชาวเชียงใหม่ที่รัก ในการแข่งขันเพื่อรับเลือกตั้งนั้นผู้ที่ไม่มีหนทางอื่นใดอีกแล้วที่จะมาโจมตีพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ย่อมต้องหันเข้าใช้วิธีเอาสีข้างเข้าถูกกล่าวร้ายป้ายสีเราในสิ่งที่ไม่เป็นความจริงและไม่มีเหตุผล การเล่นการเมือง ดังกล่าวนั้นคือกลวิธีของชนชั้นปกครอง และนายทุนเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตน โดยไม่มีหลักการอะไรเพื่อประชาชนทั้งสิ้น ผมถือว่าการโกหกหลอกลวงและการมอมเมาไม่ว่าจะเป็นด้วยวาจาก็ดี หรือทางหนังสือพิมพ์และวิทยุก็ดีนับเป็นการดูถูกเหยียดหยามสติปัญญาของประชาชนยอย่างยิ่ง ผมเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวเชียงใหม่ย่อมไม่มีวันถูกชักจูงโดยอันธพาลการเมืองเหล่านั้นได้

ผู้ใดกล่าวหาพรรคการเมืองที่จดทะเบียนตามกฎหมายและกล่าวหาผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ผู้นั้นบิดเบือนความจริงและอาจถูกลงโทษฐานที่หมิ่นประมาทตามประมวลอาญา
ผู้ใดกล่าวว่าสังคมนิยมคือคอมมิวนิสต์ที่จะมาริบที่ดินชาวนาจะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะฆ่าคนแก่ทำปุ๋ย ผู้นั้น เล่นการเมืองมิได้ต่อสู้ทางการเมือง ผู้นั้นแอบอ้างเอาสถาบันต่าง ๆ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวอย่างน่าละอาย และผู้นั้นเปี่ยมไปด้วยความโง่เขลาและเบาปัญญา พรรคสังคมนิยมไม่มีนโยบายอย่างนั้น ถ้าพรรคนี้ทำผิดกฎหมาย จงเร่งบอกตำรวจจับเสีย

ผู้ใดแอบอ้างว่า ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินไม่ได้ เพราะมหากษัตริย์ต้องทรงเป็นใหญ่ ผู้นั้นเป็นกาฝากราชบัลลังก์พยายามดึงเอาพระมหากษัตริย์ที่ทรงอยู่เหนือการเมืองมาเป็นเครื่องมือหากิน และผู้เป็นศัตรูกับประชาชน

ผู้ใดอ้างตัวเองยากจนข้นแค้น แต่กลับสังกัดพรรคทุนนั้นถ้าไม่หลงผิดทางชนชั้นก็ขายตัวเป็นข้าทาสแก่นายทุนไปแล้ว

ผู้ใดไม่พูดเรื่องการเมืองแต่ซุบซิบนินทาปล่อยข่าวลือผู้นั้นสู้อย่างสุนัขจนตรอก

ผู้ใดอ้างว่าผู้แทนเชียงใหม่ต้องเกิดที่ปูคา-หรือฟ้าฮ่าม หรือต้องเป็นผู้ทำมาหากินในเมืองเชียงใหม่มาเป็นเวลาสิบ ๆ ปี (คนแก่) ผู้นั้นใจแคบและหัวเก่าเขากำลังพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเขาไม่ใช่เรื่องของส่วนรวมเหมือนกับคนที่พูดว่าชาวเหนือเหมือนลาวชาวอีสานไม่ใช่ไทย ชาวปักษ์ใต้เหมือนแขก เขาจึงเป็นผู้คลั่งลัทธิท้องถิ่นนิยม

ผู้ใดโกหกหลอกลวงประชาชนว่าพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยจะนำจีนแดง และญวนแดงเข้ามาครอบครองไทย แต่ตนเองกลับไม่ต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน ซึ่งครอบครองประเทศไทยอยู่ตั้งครึ่งแล้วผู้นั้นเป็นคนขายชาติ

ดังนั้น ผมจึงใคร่ขอให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ จงเลือกผู้แทนของท่าน ด้วยเหตุผลหลังการทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และความเป็นธรรมของสังคม มิใช่ด้วยเรื่องส่วนตัว หรือ ผลประโยชน์ส่วนตัว

ใผเอาเหล้ามาเลี้ยง                          หื้อถอง
ใผเอาเงินมาแจก                             หื้อฮับ
ใผเอารถมาขับ                                หื้อขี่                                                                 
ใผเอาหนังฟรีมาฉาย หื้อกอย              อยากให้ประชาชาติได้เป็นใหญ่
แต่ผมขอบี้น้องกึ๊ดหื้อดี ๆ แล้วก้อยก๋า   ก๋าให้พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย
                                                                             
เสียมบ่าคมใส่ด้ามหนัก ๆ
อยากเป็นทาสให้เลือกศักดินา          คนบ่าหาวั๊กคบกั๋นหลาย ๆ
อยากเป็นขี้ข้าให้เลือกนายทุน          หมาหลวงบ่าแป๊หมาหลาย
อยากเป็นสมุนให้เลือกทรราช          (หลวงพ่อว่า)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น