โดยปีเตอร์ เลนบี้ ผู้สื่อข่าวชาวสวีเดน
ที่มา จัตุรัส ปีที่ 2 ฉบับที่ 36, 16 มีนาคม 2519
เราได้พบเลขาธิการพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย
ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน เมื่อ 11.00 น. ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ในโรงแรมรีโน กรุงเทพฯ
เราสนทนากันถึงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยและสงครามอินโดจีน เราคุยกันถึงการคุกคามที่ฝ่ายซ้ายกำลังเผชิญอยู่
และการคุกคามอื่น ๆ ที่มีผลให้ผู้นำฝ่ายซ้ายเสียชีวิตไปแล้วถึง 27 คน ตั้งแต่การเลือกตั้งที่มีขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ดร.บุญสนองแสดงความเห็นประณามการใช้ความรุนแรงทางการเมืองอย่างแข็งขัน
“เราต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่ใช้ความรุนแรง” เขาประกาศ
แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง
เขาก็ได้กลายเป็นเหยื่อรายที่ 28 ของการล่าสังหารที่กระทำกันอย่างเป็นขบวนการเพื่อทำลายผู้นำของฝ่ายกรรมกร
ชาวนา และนักศึกษาในเมืองไทย
เลนบี้
:
สถานการ์ณการเมืองในเมืองไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ภายหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศอินโดจีน
บุญสนอง
:
การปลดแอกของเวียดนาม
ลาวและเขมร ได้กระตุ้นเร้าให้ประชาชนไทยที่มีกำลังใจในการต่อสู้เพื่อความเป็นประชาธิปไตยในประเทศของเรา
เพื่อปลดปล่อยตัวเราจากการขูดรีดทั้งภายในประเทศ และจากอิทธิพลของต่างประเทศ ขณะเดียวกันชัยชนะของประชาชนอินโดจีน
ก็ได้สร้างความหวาดหวั่นให้กับจักรพรรดินิยมอเมริกัน และพวกคนไทยที่เป็นสมุนของอเมริกัน
และตอนนี้พวกเขาก็กำลังเกรงกันว่า ฝ่ายซ้ายไทยจะมีกำลังเข้มแข็งขึ้น
พวกเขาจึงพยายามสร้างสถานการณ์ที่ตึงเครียดทางการเมืองขึ้นเพื่อหาโอกาสทำรัฐประหารข่มขู่คุกคาม
ปาระเบิด และทำการฆาตกรรม วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการทำลายประชาธิปไตยที่ประชาชนไทยเพิ่งจะได้มาจาก
14 ตุลา 2516
เลนบี้
:
การข่มขู่คุกคามที่คุณกล่าวถึง อยู่ในรูปใดบ้าง
และใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการคุกคามทางการเมืองเหล่านี้
บุญสนอง
: ตั้งแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วมา
ผู้นำฝ่ายซ้าย 27 คนถูกลอบสังหารไป รวมทั้งคนของพรรคเราคนหนึ่งด้วย
เรามีเหตุผลหลายข้อที่ทำให้เชื่อได้ว่าอเมริกัน ซี.ไอ.เอ. และขบวนการขวาจัดของไทยที่เรียกว่า “กระทิงแดง”
เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการคุกคามเหล่านี้ แต่ก็แน่แหละ มันยากที่จะพิสูจน์ออกมาให้ชัด
ๆ เพราะศัตรูที่เราเผชิญอยู่นั้นมีอิทธิพลมหาศาล ซ้ำยังได้รับการร่วมมือเป็นอย่างดีกับฝ่ายตำรวจไทยที่จะไม่ยื่นมือเข้าไปรบกวนด้วยการติดตามหาตัวฆาตกรเสียอีก
เลนบี้
:
คุณเองเคยถูกขู่เอาชีวิตบ้างหรือไม่
บุญสนอง
:
ผมถูกขู่มากมาย
โดยกลุ่มที่ไม่เปิดเผยชื่อ เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองรถผมยังถูกลอบทำให้เสียหาย
เลนบี้
:
คุณจะปกป้องรักษาตังของคุณเองและเพื่อน ๆ ในพรรคของคนอย่างไร
บุญสนอง
: สิ่งที่แน่
ๆ ก็คือ เราจะต้องไม่เอาแต่หวาดกลัวต่อการข่มขู่คุกคามเหล่านี้จนทำอะไรไม่ได้เลย
เพราะนั่นยิ่งทำให้เราไม่อาจจะปกปักษ์ป้องกันตนเองจากจักรวรรดินิยมมหาอำนาจและสมุนของพวกเขา
เราไม่อาจจะเดินไปไหนมาไหนโดยสวมเสื้อเกราะอยู่ตลอดเวลา
จะมีก็แต่ประชาชนไทยเท่านั้นที่จะช่วยปกป้องไว้ได้ การคุกคามที่เราได้รับและการตอบโต้อย่างสงบของเราจะเป็นบทเรียนทางการเมืองที่จะทำให้ประชาชนไทยมองเห็นอะไรเป็นอะไรได้เร็วยิ่งขึ้น
เลนบี้
:
คุณเคยคิดที่จะใช้ชีวิตการรุนแรงเพื่อปกป้องตัวเองและสิทธิประชาธิปไตยของคุณบ้างหรือไม่
บุญสนอง
: เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศของเราให้เป็นประชาธิปไตยโดยไม่ใช้ความรุนแรง
เราเป็นพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ที่ต้องการให้กรรมกร ชาวนา และนักศึกษา
มีสิทธิอำนาจในประเทศของเขาเอง โดยวิธีที่เป็นประชาธิปไตยโดยการเลือกตั้ง นี่เป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา
เลนบี้
:
คุณคิดว่าฝ่ายสังคมนิยมจะสามารถได้อำนาจในสภาหรือไม่
บุญสนอง
: ไม่ครับ
ผมไม่เคยมีภาพฝันหวานเลยว่า พรรคของเราจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างมาในรัฐสภาได้
กลุ่มปฏิกิริยายังมีอำนาจอย่างมหาศาลอยู่ และก็ไม่ลังเลเลยที่จะให้อำนาจต่อต้านเรา
พวกเขาคงไม่ยอมปล่อยให้เรามีโอกาสได้อำนาจในรัฐสภาเป็นแน่
เลนบี้
:
ทำไมคุณถึงไม่ลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งในครั้งนี้
บุญสนอง
:
เพราะผมคิดว่า
เรามีภาระที่จะต้องใช้โอกาสในขณะที่เผยแพร่ความคิดและให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชน
ทั้ง ๆ ที่เราถูกคุกคามและมีอุปสรรคยากลำบากต่าง ๆ นานาอยู่ จะถือเป็นความผิดของเราทีเดียว
หากเราไม่พยายามเผยแพร่ความคิดทางการเมืองของเรา ตราบที่เรายังสามารถที่จะทำงานของเราอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่ได้
แต่ก็แน่ละว่าคงจะมีบางสถานการณ์ที่เราไม่อาจทำงานอย่างเปิดเผยต่อไปได้ สถานการณ์การเมืองในแต่ละช่วงแต่ละตอนควรได้รับการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน
พรรคของเราจะทำอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงของสถานการณ์ เป็นปัญหาที่เราจะต้องถกเถียงกันภายในพรรค
การคิดว่าพรรคของเราเป็นพรรคที่จะสมัครเข้ารับการเลือกตั้งละก็เป็นความคิดที่ผิด งานที่สำคัญที่สุดของเราคือการจัดตั้งมวลชนในกลุ่มของพรรคในโรงงาน
ในหมู่ชาวนา ในหมู่นักศึกษา และในกลุ่มชนอื่น ๆ ความหวังอันสูงสุดของพรรคเราก็คือ ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศของเราเป็นไปโดยปราศจากความรุนแรงของการเสียเลือดเนื้อ
ให้พรรคการเมืองทุก ๆ
พรรคสามารถประกาศเผยแพร่อุดมการณ์การเมืองของตนได้อย่างเปิดเผย
โดยไม่ต้องหวั่นเกรงต่อการข่มขู่ต่าง ๆ
เลนบี้
:
มีข่าวลือกันว่า คุณได้เงินจาก ซีไอเอ และบางกระแสก็ว่าคุณได้จาก
เคจีบี
บุญสนอง
: การสร้างข่าวลือและการใส่ร้ายป้ายสี
เป็นวิธีการที่กลุ่มปฏิกิริยาใช้กัน เราไม่รับเงินจากต่างประเทศเหมือนพรรคอื่นบางพรรคอย่างเด็ดขาด
ไม่ว่าจะจากรัฐหรือบริษัทเอกชนของประเทศใด ๆ การเงินของเราทั้งหมดพึ่งพาบรรดาสมาชิกและผู้สนับสนุนอุดมการณ์ของเราเท่านั้น
ซึ่งส่วนมาก็เป็นกลุ่มคนที่ยากจนอยู่ ผมยอมรับว่า
พรรคของเรามีปัญหาทางการเงินสูงมากที่เห็นกันได้ง่าย ๆ ก็อย่างคราวนี้ เราส่งผู้สมัครทั้งหมด
125 คน เข้ารับเลือกตั้ง เราก็มีปัญหาทางการเงินแล้ว ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องจ่ายเงินค่าสมัคร
4,000 บาท เราตั้งความหวังไว้ว่า
เราจะมีผู้สมัครในทุกจังหวัดอย่างน้อยจังหวัดละคน หากเราได้รับเงินจาก ซี.ไอ.เอ. หรือ เค.จี.บี. หรือทั้งสองฝ่ายจริง
เราก็คงจะไม่มีปัญหาทางการเงินหนักอย่างที่เป็นอยู่นี้
เลนบี้
: คุณเคยติดต่อกับองค์การต่างประเทศใด
ๆ บ้างหรือไม่เป็นต้นว่า องค์การของสวีเดน
บุญสนอง
:
ผมเสียใจที่จะต้องเรียนว่า
งานระดับระหว่างประเทศของเรายังอยู่ในระดับที่แคบอยู่ เราไม่มีเงินและเวลามากพอที่จะให้กับการติดต่อในระดับระหว่างประเทศ
หรือติดต่อกับพรรคสังคมนิยมในประเทศอื่นๆ แต่ผมหวังอยู่ว่าภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงแล้ว
เราจะเริ่มงานติดต่อระหว่างประเทศได้ และผมหวังอย่างจริงใจว่า
เราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสหายร่วมอุดมการณ์ในสวีเดนได้
เมื่อเราจบการสัมภาษณ์
ดร.บุญสนองแล้ว เราได้พูดขึ้นว่า เรากำลังพยายามจะติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้อำนวยการ
กอ.รมน. พล.อ.สายหยุด เกิดผล ดร.บุญสนองจึงบอกว่า
“หากคุณได้พบท่าน ผมฝากบอกท่านด้วยว่า พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยหวังอย่างยิ่งว่า
การเลือกตั้งในเดือนเมษายนคงจะมีขึ้นได้จริง และเรายังหวังอีกด้วยว่า
เราจะสามารถทำงานทางการเมืองของเราในวิถีทางที่เป็นประชาธิปไตยได้”
ด้วยเหตุที่
พล.อ.สายหยุด เกิดผล
ดูจะเป็นผู้ที่มีงานยุ่งมากและเรายังไม่ได้เวลานัดสัมภาษณ์จากท่าน
เราจึงขอส่งข้อความที่ ดร.บุญสนองฝากเราไว้ผ่าน “จัตุรัส” ถึง พล.อ.สายหยุด เกิดผล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น